OPP Tape คืออะไร เลือกซื้อยี่ห้อไหนดี
“OPP Tape” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของเทปกาวสำหรับปิดกล่อง เทปปิดกล่อง หรือเทปใส ซึ่งหากมองเผินๆ แล้วอาจจะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว OPP Tape ยังสามารถแยกย่อยออกได้ตามลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของขนาด สี และเนื้อเทป ในบทความนี้ วรกุลชัย จะพามาทำความรู้จักเทปกาวปิดกล่อง OPP ให้มากยิ่งขึ้น ว่าเทปแต่ละชนิด เหมาะกับการใช้งานประเภทไหนบ้าง
OOP Tape คืออะไร?
OPP Packing Tape หรือเทปกาวปิดกล่องนั้น ผลิตจากฟิล์ม Oriented Polypropylene ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องความทนทาน มีคุณสมบัติในการรับแรงดึงได้ดี จึงไม่สามารถฉีกให้ขาดได้ด้วยมือเปล่า นำมาเคลือบด้วยกาว 1 ด้าน เพื่อให้ติดกับวัตถุ จึงทำให้คุณสมบัติหลักของเทปมีทั้งความใส เหนียวแน่น ติดทนนาน แข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ จึงเหมาะสำหรับงานปิดผนึกวัตถุ งานที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม งานตกแต่ง ร้านค้า หรือสำหรับใช้ในงานทั่วไป ซึ่งโดยปกติแล้ว มักถูกนำไปใช้ในการปิดกล่องให้มีความแข็งแรงและปลอดภัยในการขนส่ง
ชนิดและการใช้งานของ OPP Tape
โดยปกติแล้ว OPP Packing Tape ในท้องตลาด สามารถแบ่งออกตามความเหนียว และชนิดของกาวที่ใช้ สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
โดยทั่วไปในประเทศไทย เทปโอพีพี (OPP Tape) จะนิยมใช้กัน 2 เเบบ คือ กาวสังเคราะห์และกาวยาง
1.กาวยางธรรมชาติ (Rubber Based Tape)
กาวยางธรรมชาติ จะเป็นกาวที่ผลิตมาจากยางพารา มีความเหนียวที่มาก รับน้ำหนักได้เยอะ และมีคุณภาพสูง เพราะเหนียวเป็นพิเศษ สามารถทนอากาศเย็น อุณหภูมิที่ต่ำได้ โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เทปปิดกล่องที่เป็นกาวยางธรรมชาติจะไม่มีการล่อนออกจะติดคงทน จึงเหมาะกับงานในโรงงาน อุตสาหกรรม และงานแพ็คกิ้ง เพื่อการส่งออกที่ต้องเจอกับสภาพอากาศที่หลากหลาย
2.. กาวสังเคราะห์ (Acrylic Solvent/Water Based Tape)
กาวสังเคราะห์สูตรน้ำ เป็นกาวที่มีความเหนียว แต่ไม่เยิ้ม และมีแรงยึดเกาะที่ดี สามารถรับน้ำหนักเบาถึงปานกลาง นอกจากนี้ยังมีราคาประหยัดกว่า แต่ไม่ทนต่ออากาศที่เย็นจัดได้เท่ากาวยางธรรมชาติ เนื่องจากตัวกาวที่เป็นสูตรน้ำ เมื่อเจอกับความเย็น อาจทำให้แข็งตัว และไม่สามารถยึดเกาะได้ดีเท่าที่ควร OPP Tape ประเภทนี้ จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใช้ในสำนักงาน ใช้ติดถุง ติดบรรจุภัณฑ์ทั่วไป หรือใช้แพ็คสินค้า
ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อ OPP Packing Tape คุ้มค่า
เนื่องจาก OPP Tape มีประเภทให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย ลองมาดูกันว่าเราจะต้องเลือกเทปปิดกล่องอย่างไร และมีข้อควรพิจารณาไหนบ้างที่สามารถนำมาเป็นเกณฑ์ในการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมของคุณ
1.ชนิดของกาว
อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้วว่า OPP Tape นั้นมีกาวที่นิยมใช้อยู่ 2 ชนิด คือ กาวยางธรรมชาติ และกาวสังเคราะห์แบบน้ำ ซึ่งกาวแต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
- เทป OPP กาวยางธรรมชาติ – มีความเหนียวสูง และทนทานต่ออุณหภูมิทั้งสูงและต่ำเหมาะกับการใช้งานแพ็คบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ ต้องรับน้ำหนักมาก หรือต้องส่งออกไปต่างประเทศ
- เทป OPP กาวสังเคราะห์แบบน้ำ – ราคาย่อมเยากว่า รับน้ำหนักและทนต่ออุณภูมิได้ปานกลาง สู้แดด แต่แพ้อุณหภูมิต่ำ จึงเหมาะกับการแพ็คบรรจุภัณฑ์สินค้าทั่วไป
2.ความหนา
ความหนาของเทปกาว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ชั้นเนื้อฟิล์ม กับชั้นเนื้อกาว ส่วนมากเราจะใช้ความหนาของเทปเป็นตัวแบ่งเกรดเทปเบื้องต้น ยิ่งความหนามาก ความเหนียว และความแข็งแรงก็จะยิ่งมากขึ้น ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มาก เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณต้องการนำ OPP Packing Tape ไปใช้งานแพ็คบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักมาก ก็ควรเลือกเทป OPP ที่มีความหนามากเช่นกัน
ซึ่งเราสามารถแบ่งค่าไมครอนตามการใช้งาน ได้ดังนี้
- เทป OPP 36 ไมครอน
เหมาะกับการใช้งานปิดซองเอกสารที่มีน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม
- เทป OPP 38 ไมครอน
เป็นความหนาแบบปกติทั่วไป เหมาะกับการใช้งานในบ้าน หรือออฟฟิศ สามารถติดกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 1-3 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุหน้ากากอนามัย กล่องใส่รองเท้า ซองจดหมาย เป็นต้น
- เทป OPP 40 ไมครอน
สามารถใช้ปิดผนึก หรือแพ็คกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 3-5 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุเอกสาร แก้ว เป็นต้น
- เทป OPP 43 ไมครอน
สามารถติดกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 5-8 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุต้นไม้ กล่องบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- เทป OPP 45 ไมครอน
เทปกาวคุณภาพเกรดดี ที่สามารถติดกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 5-10 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุผลไม้ กล่องบรรจุวิตามิน อาหารเสริม
- เทป OPP 48 ไมครอน
สามารถติดกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 10-15 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดกลาง กล่องบรรจุเครื่องดื่ม
- เทป OPP 50 ไมครอน
เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรม สามารถติดกล่องที่มีน้ำหนักมากได้ถึง 30 กิโลกรัม เช่น กล่องบรรจุสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่
- เทป OPP 65 ไมครอน
เหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ และขนาดย่อม สามารถติดกล่องที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 35-40 กิโลกรัม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่
ทั้งนี้จำนวนไมครอนไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพของเทปกาวเสมอไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นสามารถพิจารณา โดยแบ่งความหนาออกเป็นชั้นกาวและชั้นฟิล์มด้วย ซึ่งในบางครั้งฉันฟิล์มคุณภาพดีอาจมีความบางกว่า แต่เหนียวกว่า จึงช่วยเพิ่มคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและยืดหยุ่นของเทป แต่ต้องแข็งแรงพอที่จะรองรับความสามารถในการยึดเหนี่ยวของชั้นกาว
โดยปกติแล้วในตลาดชั้นฟิล์มมักจะมีความหนาอยู่ที่ 15-30 ไมครอน ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และส่วนที่เหลือจะเป็นความหนาของชั้นกาวซึ่งเป็นตัวชี้วัดเรื่องความเหนียว และความสามารถในการยึดติดกับพื้นผิวชิ้นงาน ยิ่งชั้นกาวหนาก็จะมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของกาวด้วย
3.ความกว้างของหน้าเทป
ความกว้างของหน้าเทป OPP ควรเลือกให้มีขนาดที่เหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ เพราะถ้าหากคุณเลือกใช้ OPP Tape ที่มีหน้าแคบก็อาจจะทำให้บรรจุภัณฑ์ปิดไม่สนิท ปริออก ซึ่งจะทำให้สิ่งของล่วงหล่นกลางทางได้ โดยตามท้องตลาดทั่วไปในประเทศไทย เทป OPP จะมีขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว หรือ 48 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่สามารถใช้ปิดได้ทั้งบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็ก และใหญ่
ในบางอุตสาหกรรมจำเป็นจะต้องใช้เทปกาวขนาด 3 นิ้ว ซึ่งหาได้ยากตามท้องตลาดทั่วไป จำเป็นต้องหาในตลาดเฉพาะทาง หรือติดต่อผู้ผลิตเพื่อสั่งทำพิเศษเท่านั้น
4.ความยาวของเทป
เมื่อคุณเลือกซื้อ OPP Tape ที่มีความยาวมาก ก็จะทำให้คุณใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น โดยความยาวของเทป มีหน่วยเป็นหลา สำหรับความยาวมาตรฐานทั่วไปจะมีตั้งแต่ 45, 50, 100 และ 1,000 หลา ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานของแต่ละประเภท เพราะถ้าหากคุณใช้งานทั่วไป เราก็ขอแนะนำที่ 45/100 หลา แต่ถ้าหากคุณเป็นโรงงาน หรือผู้ประกอบการที่ต้องแพ็คบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก ก็ควรพิจารณาการเลือกใช้เครื่องจักรปิดกล่อง ใช้ OPP Packing Tape ขนาด 1,000 หลา ซึ่งเหมาะกับอุสาหกรรมมากกว่า และเมื่อเทียบกันแล้ว ราคาอาจจะถูกกว่า ทำให้สามารถประหยัดได้มากขึ้น
5.สีของเทปกาว OPP
สีของเทปกาว OPP จะมีหลักๆด้วยกัน 2 สี คือ สีใส (Clear Adhesive Tape), เเละสีชา สีขุ่น หรือสีน้ำตาล (Brown Adhesive Tape) โดยสมัยก่อนเทปกาวสีชาถูกผลิตขึ้นเนื่องจากต้องการให้กลมกลืนกันกับสีของลังกระดาษ ผู้ซื้อจะนิยมใช้เป็นสีชา เนื่องจากสีเทปจะเหมือนกับตัวกล่องกระดาษลูกฟูก
แต่เนื่องจากในประเทศไทยมีเนื้อกระดาษค่อนข้างหลากหลายแบบ ซึ่งโทนสีกระดาษจะแตกต่างกัน จึงนิยมใช้เทปโอพีพีสีใสกันมากกว่า โดยหลายคนมักเข้าใจผิดว่า OPP Packing Tape เเบบสีชา (Brown Adhesive Tape) จะเหนียวกว่าเทปโอพีพีแบบสีใส (Clear Adhesive Tape) ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะความเหนียวของเทปจะขึ้นอยู่กับเนื้อกาวเป็นหลัก ปัจจุบันเทปปิดกล่อง OPP มีผลิตสีอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์ลาย หรือโลโก้ ที่ต้องการลงไปบนเทปได้อีกด้วย
อายุการใช้งานของ OPP Tape สำหรับปิดกล่อง อยู่ได้นานเท่าไหร่
อายุของการใช้งานเทปปิดกล่องนั้นค่อนข้างจะนาน วัตถุดิบที่มีคุณภาพทำให้เก็บได้นานหลายปีโดยที่กาวไม่เสื่อมสภาพ ส่วนเมื่อปิดกล่องไปแล้วนั้นเทปกาวจะคงทนติดอยู่กับกล่องได้นานนับปีเช่นกัน นอกจากจะใช้ปิดกล่องสินค้าต่าง ๆ แล้ว เทปชนิดนี้ยังใช้งานในด้านอื่น ๆ ได้โดยเฉพาะเทปใสที่สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งติดสิ่งของต่าง ๆ หรือ พูดง่าย ๆ ว่าสามารถใช้แทนสก๊อตเทปทั่ว ๆ ไปได้นั่นเอง แต่ขนาดของเทปปิดกล่องอาจจะใหญ่ไปสักนิด แต่ก็สามารถตัดให้มีขนาดเล็กตามความต้องการได้
แนะนำวิธีการทดสอบความเหนียวแน่น ทนทาน ของ OPP Tape ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการทราบว่าเทปกาวปิดกล่องที่ใช้อยู่นั้นเหนียวแน่น ติดทนขนาดไหน วันนี้เราก็มีวิธีการทดสอบง่ายๆ ที่ทุกคนทำตามได้ มาฝากกัน
อุปกรณ์
- แผ่นลัง แผ่นกระดาษลูกฟูก หรือกล่องพัสดุ
- เทป OPP ยี่ห้อที่ต้องการทดสอบ
- ไม้บรรทัด
ขั้นตอนการทดสอบความเหนียวของเทป
- นำ OPP Tape มาติดบนแผ่นกระดาษลูกฟูก หรือกล่องพัสดุ
- จากนั้นนำไม้บรรทัดรีดตัวเทปให้แนบสนิทไปกับกระดาษลูกฟูก
- เมื่อรีดเทปบนกระดาษลูกฟูกเรียบร้อยแล้ว ให้ดึงเทป OPP แต่ละยี่ห้อออก
- เมื่อดึง OPP Tape แต่ละยี่ห้อออกแล้ว ให้สังเกตว่าเทป OPP ยี่ห้อไหนที่มีเนื้อกระดาษติดออกมามากที่สุด แปลว่าเทปยี่ห้อนั้นมีความเหนียวมากที่สุด และสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าเทปยี่ห้ออื่นๆ
OPP Tape คุณภาพสูง จาก วรกุลชัย
เทป OPP จากวรกุลชัย เป็นเทปปิดกล่อง คุณภาพสูง เหนียวแน่น ติดทนนาน แข็งแรง ฉีกขาดได้ยาก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล่องบรรจัภัณฑ์ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการใช้งานที่รับน้ำหนักได้มาก โดย OPP Packing Tape ของเรา มีให้เลือกทั้งชนิดของกาว ความหนา ความยาว และความกว้างหน้าเทปที่หลากหลาย นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถสั่งผลิตเทป OPP พิมพ์ลายโลโก้ หรือลวดลายที่ต้องการได้อีกด้วย
ROBOTAPE เทปกาวปิดกล่อง OPP หนา 45 ไมครอน
ROBOTAPE เทปกาวคุณภาพเยี่ยม หนา 45 ไมครอน คุ้มค่า คุ้มราคา สามารถติดกล่องได้ตั้งแต่น้ำหนัก 10-15 กิโลกรัม แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องเย็น หรือถูกความเย็น มีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 45 หลา 50 หลา 100 หลา 200 หลา ไปจนถึง 1,000 หลา สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน สามารถตรวจสอบสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ วรกุลชัย เทปกาว OPP คุณภาพดี
OPP Tape ใสพิมพ์ลาย
เทป OPP พิมพ์ลาย สามารถออกแบบเองได้ ทั้งพิมพ์ลายโลโก้ และพิมพ์ข้อความได้ตามความต้องการ โดยจะมีขนาดความยาวให้เลือกตั้งแต่ 100 หลา จนถึง 1,000 หลา
OPP Tape สำหรับปิดกล่องนั้นนั้น จัดว่าเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่จำเป็นต่อการใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ การแพ็คสินค้า เนื่องจากเทปกาว เป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นเราควรพิจารณาเลือกเทป จากทั้งวัสดุที่ใช้ เนื้อเทป ความหนา และความยาวของตัวเทป เพื่อใช้สำหรับปิดกล่องได้อย่างเหมาะสมตามประเภทของงานแล้วจะทำให้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในงานได้อย่างมาก อีกทั้งยังทำให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยความยาวต่อม้วนที่มากกว่า จะมีราคาต่อหลาที่ถูกกว่า เนื่องด้วยต้นทุนในตัวแกนกระดาษที่ส่งผลต่อราคาสินค้า
สำหรับเจ้าของธุรกิจท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าควรใช้ OPP Tape แบบไหน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ วรกุลชัย ได้ตลอด เพราะเราจัดจำหน่ายทั้งตัวเครื่องจักรอุตสาหกรรม และวัสดุอื่นๆ ที่มีความครอบคลุมทุกความต้องการใช้งาน พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษาการขายมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำสินค้าให้เหมาะสมโดยคำนึงถึงต้นทุน กำไร และประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลักอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจ OPP Tape หรือเครื่องจักรอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ อย่าง เครื่องพันฟิล์มยืด เครื่องพันพาเลท ฟิล์มยืด และอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามและขอคำแนะนำได้ตามช่องทางที่คุณสะดวก
Line ID: @Worakulchai
เบอร์โทร: 02-868-5870-5
E-mail: info@worakulchai.com
หรือสามารถติดตามเราได้ที่ช่องทาง : https://www.youtube.com/@worakulchaipackagesealco.l2730